ตำแหน่งกองกลางถือได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ขับเคลื่อนการเล่นภายในทีมที่สำคัญที่สุด แต่อยู่ที่ว่าใครจะเป็นคนที่อยู่ตรงจุดนั้นแล้วทำได้ดี ซึ่งถ้าหากทำได้ดีแล้วระบบการเล่นของทีมจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ถ้าหากทำผลงานได้ไม่ดีทีมก็จะเจอความยากลำบาก จะเห็นได้ว่าทีมที่มีกองกลางเก่งๆ เกมรุกจะไม่ต้องเหนื่อยมากแค่รอจังหวะที่จะเข้าทำให้ดีที่สุดก็พอ ในขณะเดียวกันในเกมรับที่มีกองกลางคอยตัดเกม แผงแนวรับก็จะมีความแข็งแกร่งเจาะเข้ายาก สำหรับศึกยูโร 2020 มีมิดฟิลด์มากมายที่เล่นได้ตามที่ได้กล่าวข้างต้น มีทั้งนักเตะที่โด่งดังอยู่แล้ว และนักเตะที่เพิ่งจะมาแจ้งเกิดในรายการนี้ ซึ่งจะเป็นใครกันบ้างมาดูกัน
1.จอร์จินโญ่ : ทีมชาติอิตาลี
อิตาลีมีนักเตะในแดนกลางมากมายในอดีตที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น อังเดรีย ปิร์โล่ , ฟานเชสโก้ ต็อตติ , เจนนาโร กัตตูโซ่ และคนอื่นอีกมากมายที่อยู่ในระดับเวิล์ดคลาส แน่นอนว่าทุกคนล้วนแล้วมีสไตล์ที่แตกต่างออกกันไป ซึ่ง จอร์จินโญ่ ได้มีเอกลัษณ์การเล่นของตัวเองได้อย่างเห็นชัดเจน ด้วยความที่เป็นคนบราซิลมาตั้งแต่กำเนิดจึงมีสไตล์ฟุตบอลฉบับแซมบ้าทักษะสูง สามารถสร้างสรรค์เกมได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเกมรับที่หนักแน่น ช่วยให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้อย่างราบรื่น
2.เปดรี้ : ทีมชาติสเปน
เพชรเม็ดงามชิ้นใหม่ของทีมชาติสเปน รวมไปถึงวงการฟุตบอลระดับโลก ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปี แต่สามารถบัญชาเกมในแดนกลางราวกับมีประสบการณ์มาหลายปี เปดรี้ เป็นนักเตะที่มีพรสรรค์สูงมาก เล่นฟุตบอลได้อย่างฉลาดหลักแหลม เห็นเพื่อนวิ่งทำทางก็จ่ายบอลง่ายๆ ทันทีโดยที่ไม่หวงบอลเลยสักนิด ด้วยความที่ยังเด็กความฟิตสมบูรณ์ของเขา สามารถช่วยให้นักเตะรุ่นพี่ได้มีจังหวะพักในขณะที่ตัวเองวิ่งแล่นทั่วสนาม เรียกได้ว่าอนาคตของเขาต้องก้าวมาเป็นนักเตะระดับโลกตามมิดฟิลด์รุ่นพี่ได้แน่นอน
3.มิคเกล ดามสการ์ด : ทีมชาติเดนมาร์ก
จากเหตุการณ์ที่กองกลางคนสำคัญ คริสเตียน อีริคเซ่น หัวใจหยุดเต้นจนหมดสติกลางสนาม ทำให้นักเตะเดนมาร์กในตอนนั้นมีสภาพจิตใจที่แย่มาก ไม่ได้สนใจว่าการแข่งขันในทัวร์นาเมนท์ยูโร 2020 จะแพ้หรือชนะแต่อย่างใด แต่ด้วยความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเข้ามาเมื่อโค้ชได้ส่งเด็กที่ชื่อ ดามสการ์ด ลงสนามเข้าไปแทน โอกาสและจังหวะส่งผลต่อการประสบความสำเร็จของเด็กคนนี้มาก หลังเจ้าตัวใช้โอกาสโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในเกมที่เจอกับทีมชาติรัสเซีย จนเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศก็เป็นคนเดียวที่ยิงฟรีคิกเข้าประตูต่อหน้าแฟนบอลอังกฤษอย่างสวยงาม
4.จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม : ทีมชาติเนเธอร์แลนด์
เป็นกองกลางที่มักจะยิงประตูสำคัญให้กับทีมได้อยู่เป็นประจำ โดยเขาเป็นผู้ทำประตูได้มากที่สุดในทีมในศึกยูโร 2020 ครั้งนี้ ทั้งหมด 3 ประตู ไวจ์นัลดุมได้รับเลือกเป็นสวมปลอกแขนกัปตันทีม แน่นอนว่าภาวะความเป็นผู้นำของแข้งวัย 30 ปีรายนี้ ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ทั้งการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมและความทุ่มเทให้กับทีมมีให้เห็นอยู่ทุกๆ แมตซ์ สร้างความสมดุลให้กับทีมด้วยตำแหน่งมิดฟิลด์ได้อย่างเพอร์เฟค