การจับฉลากแบ่งกลุ่มฟุตบอลยูโร 2020 ของปีนี้ กลุ่มที่น่าสนใจและน่าติดตามมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นกลุ่มเอฟ ซึ่งมีทีมใหญ่อยู่ด้วยกัน 3 ทีม ได้แก่ ฝรั่งเศส , โปรตุเกส , เยอรมัน และฮังการี ถือว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มทีหินที่สุดและโอกาสที่จะเห็นทีมใหญ่ในทีมใดทีมหนึ่ง จะต้องตกรอบเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปก่อน
แต่ทั้งนี้ก็มิอาจจะประมาทฮังการีได้เช่นกัน โดยถึงแม้ว่าหลายคนต่างมองว่าฮังการีน่าจะเป็นทีมที่แจกแต้มแน่ๆ แต่ในปีนี้ฮังการีเองก็เป็นเจ้าภาพร่วมใน 11 ประเทศเช่นกัน จากที่เห็นในสองเกมที่ผ่านมานั้น กองเชียร์ของทีมชาติฮังการีเข้ามาชมกันอย่างคับคลั่งเต็มสนามปุสกัส อารีนา ประเทศฮังการี สร้างความได้เปรียบต่อนักเตะของทีมตัวเอง และเป็นนรกของนักเตะฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่า 2 เกมที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเกมแรกจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับโปรตุเกสไป 3-0 แต่ว่าเกมที่สองก็สู้หลังชนฝาเสมอกับแชมป์ฟุตบอลโลกล่าสุดอย่าง ฝรั่งเศส ไปได้ 1-1 เก็บ 1 แต้มให้แฟนบอลได้มีความสุข
มาพูดถึงแชมป์เก่า โปรตุเกส โดยมีกัปตันทีม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ตอนนี้อายุก็ปาไป 36 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้เด็กวัย 20 ต้นๆ เลยสักนิด ล่าสุดเจ้าตัวพาโปรตุเกสเก็บได้ไป 3 แต้มจากการเอาชนะฮังการีไปได้นัดแรก 3-0 และเป็นการทำประตูให้กับตัวเองถึง 2 ลูก สร้างสถิติหน้าใหม่แห่งวงการฟุตบอลระดับชาติยุโรป กลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของฟุตบอลยูโร โดยทำได้ทั้งหมด 11 ประตู แถมยังยังเป็นคนแรกที่ยิงติดต่อกัน 5 ครั้งของทัวร์นาเมนท์นี้
ส่วนในเกมที่สองนั้นที่เจอกับทีมชาติเยอรมัน ก็ไม่สามารถทนแรงต้านทานทัพอินทรีย์เหล็กได้ และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 2-4 และยังต้องไปเจอศึกหนักกับฝรั่งเศสนัดสุดท้ายในรอบคัดเลือกแบ่งกลุ่ม
ต่อด้วยทีมชาติฝรั่งเศส ดีกรีแชมป์โลกทีมปัจจุบันโดยมีเป้าหมายที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 ให้สำเร็จ โดยก่อนหน้านี้เป็นทีมที่เข้าชิงกับโปรตุเกสในฟุตบอลยูโร 2016 และทำได้แค่รองแชมป์เท่านั้น เป็นไปได้ว่าปีนี้จะต้องทำให้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งเกมแรกนั้นสามารถเอาชนะเยอรมันไปได้แบบหืดจับด้วยสกอร์ 1-0 แต่ก็เก็บ 3 แต้มไปได้ แต่ก็มาพลาดท่าเจ้าภาพร่วมอย่างฮังการี ด้วยการเสมอ 1-1 แทนที่จะเก็บชัยให้สำเร็จเพื่อการันตีเข้าไปรอบต่อไป แต่ก็ต้องมาเบียดแย่งกับโปรตุเกสในนัดสุดท้ายอีก ซึ่งแน่นอนว่าแมตซ์นี้จะต้องเป็นเกมที่ดุเดือดอย่างแน่ๆ
ทีมสุดท้าย “อินทรีย์เหล็ก” เยอรมัน เป็นทัวร์นาเมนท์สุดท้ายของ โยอาคิม เลิฟ กุนซือคนเก่งที่คุมทีมมานานถึง 15 ปี ซึ่งเจ้าตัวได้ประกาศอำลาทีมล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากเสร็จภารกิจฟุตบอลยูโร 2020 มาดูกันว่าโค้ชชาวเยอรมันผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จะคว้าแชมป์สุดท้ายก่อนลงจากตำแหน่งได้หรือไม่
โดยเกมแรกเป็นฝ่ายแพ้ให้กับฝรั่งเศสไป 0-1 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ มัทส์ ฮุมเมิลส์ และสุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนของเกมนัดที่สองนั้นสามารถกลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมไม่เหมือนกับเกมแรกแม้แต่น้อย ด้วยเกมรุกที่ดุดันกว่าเดิมสร้างความปั่นป่วนให้กับโปรตุเกสในหลายจังหวะ และสุดท้ายเป็นฝ่ายเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จเอาชนะโปรตุเกสไปได้ไม่ยากด้วยสกอร์ 4-2 ในเกมต่อไปถ้าเล่นเหมือนในนัดที่เจอโปรตุเกสและมีสมาธิในเกมให้มากๆ คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากสำหรับการเอาชนะฮังการีในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเอฟ